#พลาสติก ได้รับความนิยมในการนำมาผลิตของใช้ในชีวิตประจำวันของมนุษย์มากมาย รวมถึงภายชนะบรรจุอาหารด้วย ซึ่งการเลือกใช้พลาสติกในการบรรจุอาหารหรือสัมผัสกับอาหารนั้นจะต้องใช้พลาสติกที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค หรือที่เราคุ้นหูกันว่า พลาสติก Food Grade นั่นเอง หากเราเลือกใช้พลาสติกที่ไม่เหมาะสม อาจจะทำให้เกิดผลเสียต่างๆตามมามากมาย เช่น อาหารที่เรารับประทานเข้าไปอาจจะมีสารปนเปื้อนที่อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ เห็นไหมล่ะคะว่าถึงแม้พลาสติกจะมีประโยชน์มากมายแค่ไหน แต่ถ้าใช้ไม่ถูกต้องก็เป็นอันตรายได้เหมือนกัน แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าพลาสติกแบบไหนเป็นพลาสติกทั่วไป? พลาสติกแบบไหนเป็น พลาสติก Food Grade สามารถนำมาบรรจุอาหารได้? วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักพร้อมๆกันค่ะ

พลาสติก Food Grade คือ พลาสติกที่มีความปลอดภัยเมื่อนำมาใช้บรรจุ หรือสัมผัสกับอาหาร ไม่ทิ้งสารตกค้างเมื่อสัมผัสกับอาหาร ซึ่งการสังเกตว่าพลาสติกชนิดไหนเป็น พลาสติก Food Grade นั้น สามารถดูได้จากตราสัญลักษณ์ Food Safe 

 ชนิดของพลาสติกที่สามารถใช้ในงานบรรจุอาหารได้

1.PETE (Polyethylene Terephthalate)

PETE พลาสติก Food Grade เป็นพลาสติกที่ใช้ในการผลิตขวดน้ำต่างๆที่เราพบเห็นได้บ่อยๆ มีคุณสมบัติคือใส สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ข้างในได้ เช่น ขวดน้ำดื่ม ขวดน้ำมันเป็นต้น

2.HDPE (พลาสติกชนิดความหนาแน่นสูง)

HDPE พลาสติก Food Grade เป็นพลาสติกที่มีความหนาแน่นสูง ยืดหยุ่น ทนทานต่อการ แตก หัก หรือ งอได้ดี ทนสารเคมี และป้องกันความชื้นได้ ทนความร้อนได้เล็กน้อย ควรบรรจุด้วยวิธีบรรจุแบบอุ่น (Warm filled : 80-100 องศาเซลเซียส) สามารถทนความเย็นต่ำกว่าจุดเยือกแข็งได้ เหมาะกับการบรรจุอาหารแช่เยือกแข็ง (frozen food) นิยมใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ต้องการความแข็งแรง แต่ไม่ได้ต้องการความใส

3.LDPE (พลาสติกชนิดความหนาแน่นต่ำ)

LDPE พลาสติก Food Grade เป็นพลาสติกสายอ่อนนิ่มที่มีความหนาแน่นต่ำ ยืดหยุ่นได้ดี มีคุณสมบัตินิ่มและใส ทนต่อการทิ่มทะลุ และการฉีกขาด เหนียว ไม่กรอบแตกง่าย แต่ความแข็งและทนทานน้อยกว่า HDPE ชื่อสามัญเรียกว่าถุงเย็น เพราะไม่ทนต่อความร้อนนิ่ม ไม่ว่องไวต่อปฏิกิริยาเคมี ทนต่อกรดและด่างได้ดี ป้องกันการผ่านของความชื้นได้ดี ออกซิเจนและอากาศซึมผ่านได้ ไขมันซึมผ่านได้ พลาสติก LDPE ได้รับความนิยมในการนำมาใช้เป็นบรรจุภัณฑ์อาหารเช่น ถุงเย็นต่างๆ ฟิล์มหดและฟิล์มยืด ฝาขวด ขวดน้ำ เป็นต้น

4.PP (Polypropylene)

PP พลาสติก Food Grade มักใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารเพราะมีความหนาแน่นต่ำ แต่มีจุดหลอมเหลวสูง ทนต่อความร้อนและสารเคมีได้ดี มีความใส ไม่ทนต่อความเย็น มักใช้ในการผลิตถุงทนร้อน ที่เรามักคุ้นหูกันว่า “ถุงร้อนชนิดใส” ใช้สำหรับการบรรจุผลิตภัณฑ์เพื่อการแปรรูปอาหารด้วยความร้อนเพราะทนความร้อนได้สูง และสามารถบรรจุผลิตภัณฑ์อาหารขณะที่ร้อนได้ (hot filled : 100- 121 องศาเซลเซียส) แต่ไม่เหมาะกับการบรรจุอาหารแช่เยือกแข็ง

ครั้งต่อไป 

หากจะเลือกซื้อพลาสติกมาใช้ในการบรรจุอาหาร อย่าลืมสังเกตุสัญลักษณ์ Food Safe กันด้วยนะคะ จะได้มั่นใจได้ว่า บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่เราเลือกใช้งานมีความปลอดภัยหากมีการสัมผัสกับอาหารที่เราต้องรับทาน